ไทย
เราซาบซึ้งต่อเรื่องดีๆเล็กๆ อย่างเช่น การเติบโตของGDP ที่ 6.9% ในครึ่งปีแรกของปีนี้ ในขณะที่บางคนก็ยังสงสัยในตัวเลขนี้ ด้วยการเก็บภาษีที่้ต่ำกว่าเป้า ทำให้ความพยายามที่จะดึงดูด การเอางานด้าน call centre และ กระบวนการทางธุรกิจบางอย่างจากประเทศอื่นมาทำ (Call centre and Business process outsourcing) เป็นผล
และด้วยโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ที่ดี เรา์สามารถดึงดูดการลงทุนใหญ่ๆได้ อย่างเช่น อู่ต่อเรือมูลค่า $1.6 พันล้านที่ ฮันจิน (Hanjin) ในซูบิค (Subic) และการขยายโรงงานของ Texas Instruments (TI) มูลค่า $1 พันล้าน ที่คลาร์ก (Clark) และฟิลิปปินส์ แอร์ไลส์ (Philippines Airlines) ก็วางแผนที่จะขยายการให้บริการไปถึง สนามบิน ดิโอสดาโด (Diosdado Airport) ที่คลาร์กด้วย ผมมั่นใจว่าข่าวนี้ประกอบกับทางด่วนซูบิค-คลาร์ก-ทาร์แลค (Tarlac) ที่คาดว่าน่าจะเสร็จปลายปี เป็นตัวสำคัญให้ Texas Instruments เลือกคลาร์ก แทนที่ประเทศจีน ทั้งๆที่จีนมีกฏที่ไม่เคร่งเท่า
| เราซาบซึ้งต่อเรื่องดีๆเล็กๆ อย่างเช่น การเติบโตของGDP ที่ 6.9% ในครึ่งปีแรกของปีนี้ ในขณะที่บางคนก็ยังสงสัยในตัวเลขนี้ ด้วยการเก็บภาษีที่้ต่ำกว่าเป้า ทำให้ความพยายามที่จะดึงดูด การเอางานด้าน call centre และ กระบวนการทางธุรกิจบางอย่างจากประเทศอื่นมาทำ (Call centre and Business process outsourcing) เป็นผล
และด้วยโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ที่ดี เรา์สามารถดึงดูดการลงทุนใหญ่ๆได้ อย่างเช่น อู่ต่อเรือมูลค่า $1.6 พันล้านที่ ฮันจิน (Hanjin) ในซูบิค (Subic) และการขยายโรงงานของ Texas Instruments (TI) มูลค่า $1 พันล้าน ที่คลาร์ก (Clark) และฟิลิปปินส์ แอร์ไลส์ (Philippines Airlines) ก็วางแผนที่จะขยายการให้บริการไปถึง สนามบิน ดิโอสดาโด (Diosdado Airport) ที่คลาร์กด้วย ผมมั่นใจว่าข่าวนี้ประกอบกับทางด่วนซูบิค-คลาร์ก-ทาร์แลค (Tarlac) ที่คาดว่าน่าจะเสร็จปลายปี เป็นตัวสำคัญให้ Texas Instruments เลือกคลาร์ก แทนที่ประเทศจีน ทั้งๆที่จีนมีกฏที่ไม่เคร่งเท่า
แต่เราก็ยังต้องไปอีกไกลกว่าี่์จะตามแฝดเก่าของเราทัน ประเทศไทยมีถนนยาว 57,403 ก.ม. ในขณะที่เรามี 19,804 ก.ม. ความเหนือกว่าของไทยในด้านการรถไฟยึ่งมากกว่ามาก รถไฟไทยวิ่งบนรางยาว 4,071 ก.ม. ในขณะที่ เรามีราง 897 ก.ม. โดยที่มีเพียง 40% เท่านั้นที่ถูกใช้งาน ถึงแม้ว่าเราจะมีสนามบินมากกว่า คือ 83แห่งสำหรับรันเวพื้นปูน และ 173แห่งรันเวพื้นดิน เมื่อเทียบกับไทย 63แห่ง และ 42แห่ง ตามลำดับนั้น ก็เป็นเพราะสภาพทางภูมิศาสตร์ ถ้าเราไม่บินไปยังเกาะต่างๆ เราก็ต้องนั่งเรือไป
แต่สภาพทางภูมิศาสตร์ก็เป็นสาเหตุให้ไทยมีการชลประทานที่กว้างขวาง พวกเขาทำการชลประทานเกือบถึง 50,000 ตร. ก.ม. ของพื้นดิน ในขณะที่เรามีแค่ 15,500 ตร. ก.ม. จริงอยู่ประเทศไทยมีแม่น้ำแม่กลองที่ยิ่งใหญ่ แต่เราก็น่าจะสามารถสร้างระบบเก็บกักน้ำเล็กๆ ที่เหมาะกับภูมิประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆอย่างเราได้
แต่ว่าประเทศไทยเอาทรัพยากรจากไหนมาสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งในทางกลับกันก็ดึงดูดเงินลงทุน? ที่มาอันหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือ การท่องเที่ยว กรุงเทพฯเป็นประตูนำนักท่องเที่ยวจากยุโรป สู่เอเชีย และประเทศไทยก็มีอะไรที่มากกว่าแค่ที่ตั้งที่สะดวกมอบให้
ในปี 2549 ไทยรับนักท่องเที่ยวประมาณ 15 ล้านคนซึ่งใช้จ่ายประมาณ $14 พันล้าน (฿47.6 หมื่นล้าน) ประเทศฟิลิปปินส์ยังไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 3 ล้านคน เพื่อให้ได้ $2.5ล้าน (฿8.5 หมื่นล้าน) เลย ในทางตรงกันข้าม ชาวฟิลิปปินส์ของเรา ที่ทำงานต่างประเทศ ส่งเงินกลับมาบ้านราว $14 พันล้าน เมื่อปีที่่แล้ว โดยที่ประเทศไทยไม่แม้แต่จะเก็บข้อมูลการส่งเงินกลับประเทศ ของคนไทยในต่างประเทศเลย ดังนั้น รวมรายได้ของเราจากนักท่องเที่ยวและเงินที่ส่งกลับมาบ้านแล้วได้ $16.5 พันล้าน (฿56.1 หมื่นล้าน) มากกว่า $14 พันล้านของไทย
แล้วทำไมเรายังตามหลัง? ก็เพราะเราล้มเหลวมานานที่จะจัดการกับเงินที่ส่งกลับมานี้ ผลการสำรวจจากธนาคารกลาง แสดงให้เห็นว่า หลังจากใช้จ่ายด้านการศึกษาและยา และซื้อหรือซ่อมบ้านแล้ว เพียงแค่ 40% ของผู้ทำงานต่างประเทศ เก็บสตางค์ และเงินเก็บส่วนใหญ่ของพวกเขาก็อยู่ต่างประเทศ เพียงแค่ 10% ลงทุน โดยที่พวกเขากระจายรายได้ของเขาด้วยการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็คโทรนิค (Gadgets) และอาหารฟาสท์ฟูด
เพราะอย่างนี้ ความท้าทายที่อยู่ตรงหน้าเราก็คือ การจะเคลื่อนย้ายจำนวนเงินที่มหาศาลและมีอย่างต่อเนื่องนี้อย่างไร เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งก็สามารถทำได้ด้วยการให้ทางเลือกการลงทุน แก่ผู้ทำงานต่างประเทศ นอกเหนือจากการซื้อสามล้อให้ญาติๆ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ การตัดสินใจของ ธนาคาร ING และธนาคารชาติฟิลิปปินส์ (Philippine National Bank) ที่จะเปิดกองทุนรวม $500 ล้าน สำหรับผู้ที่ทำงานต่างชาติ ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ แล้วการสร้างวิถีทางการลงทุนที่มีจุดประสงค์พิเศษ เพื่อโครงสร้างพื้นฐาน, การเงินขนาดย่อย (Microfinance) หรือ ธุรกิจการเกษตรเพื่อการพัฒนาชนบทหละ? อย่างเช่น การขยายต่อทางด่วน ซูบิค-คลาร์ก-ทาร์แลค ไปถึงถนนเคนนอน (Kennon road) นั้นจะจำเป็นอย่างมาก ภายใต้รูปแบบ สร้าง-ดำเนินงาน-ขนย้าย (build-operate-transfer scheme) ยังมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นที่ยังรอเงินทุนอยู่ ซึ่งความจริงแล้วเงินทุนท้องถิ่นบวกกับเงิน $14 พันล้านที่ส่งกลับมาบ้านทุกปีก็เพียงพอ นอกจากนี้ เรายังสามารถก่อตั้ง วิถีทางเพื่อจุดประสงค์พิเศษ (Special Purpose Vehicles: SVPs) สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน หรือการเปิดธุรกิจใหม่ เพื่อให้ชีวิตที่ดีในชุมชนชนบท
เพื่อนร่วมชาติที่อยู่ต่างประเทศของเรา ต้องการช่วยจากใจจริง เพียงแค่เราต้องบอกว่า "อย่างไร" มันจะไม่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเหรอ ถ้าเราสามารถให้โอกาศการลงทุนที่ดีแก่เขาได้ ในขณะที่เขาก็ช่วยสร้างประเทศไปด้วยกัน
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ $1 = ฿34
ขอบคุณ The Nation
No comments:
Post a Comment