ตัวจริง ชัดเจน พระพยอมกัลยาโณ

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม 2550 ต้อนรับเข้าพรรษา รายการตัวจริงชัดเจน ทาง TITV ได้ไปสัมภาษณ์ พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้วอันร่มรื่นของ จ. นนทบุรี ท่านสอน พูดคุยกับคุณ จอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการ ได้ดีและน่าสนใจมาก จึงของนำมาเล่าต่อดังนี้

• พระพยอมท่านกล่าวถึงเรื่องความนิยมจตุคามรามเทพว่า ถ้าเรานิยมแล้วศึกษาหาความรู้ด้วย และไม่ลืมที่จะปฏิบัติตัวเป็นคนดี อยู่ในศีลในธรรม ก็จะเป็นสิ่งดี
• องค์จตุคาม และ รามเทพ เคยเป็นผู้ครองนครที่ทำความดีไว้มาก พอตายไปก็ได้ไปเกิดเป็นเทวดารักษาพระธาตุ พระพยอมท่านบอกว่า คนเราเดี๋ยวนี้ความนิยมเริ่มต่ำลง ต่ำลง แต่ก่อนนับถือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อมาก็นิยมนับถือหลวงพ่อ หลวงปู่ ต่อมาก็พระพรหมณ์ มาตอนนี้มานับถือเทพผู้เฝ้าพระธาตุ จากนับถือพระพุทธเจ้า ถอยลงมานับถือยามเฝ้าองค์พระธาตุพระพุทธเจ้า และก็นับถือบุคคลเช่น ขุนพัน บางคนถึงกับปลดพระสมเด็จที่ห้อยคอเปลี่ยนมาเป็นองค์จาตุคาม เพราะมีคนบอกว่า ห้อยด้วยกันไม่ได้
• จาตุคาม ออกมา 1,000 กว่ารุ่น มุ่งแต่จะ รวยๆ อย่างบางรุ่นถึงกับชื่อ รวยไม่มีเหตุผล บ้าง รวยทะลุฟ้า บ้าง แต่ในองค์จาตุคามนั้น ไม่ได้มีคาถาหรือคำสอนที่จะช่วยให้คนรวยเลย
• ธรรมะที่สอนให้คนรวยก็มี ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนก็คือ อุ อา กะ สะ คือ ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบคน และเลือกใช้ นี่ก็เป็นเหตุให้ท่านพระพยอมทำขนมจตุคำขึ้นมา เพื่อเตือนสติ จตุคำคือ คาถา 4 คำ ที่จะทำให้คนรวยได้ คือ ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบคน และเลือกใช้ ท่านกล่าวว่าท่านทำขึ้นมาเพื่อให้คนมีสติ และใช้หลักพระพุทธศาสนาแทน
• พระพยอมท่านกล่าวว่า มี 2วัตถุทำร้ายศาสนาอยู่ คือ วัตถุนิยม และ วัตถุมงคล คนนิยมวัตถุกันมากขึ้น พระก็ทำวัตถุมงคลขึ้นมา และวัตถุมงคลนี่แหละ เมื่อคนนับถือกันอย่างงมงายก็กลายเป็นวัตถุนิยม ทำให้คนนิยมกัยแต่วัตถุ เข้าไปอีก เมื่อคนนิยมแต่วัตถุคอยแต่จะให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ก็ทำให้ตัวเองขาดศักยภาพ เป็นคนอ่อนแอ เพราะไม่ทำอะไรเอง คอยแต่รอให้คนช่วย ท่านบอกว่า มีคนเคยทำวัตถุมงคล รุ่นดูดทรัพย์ ท่านบอกไม่รู้ใครดูดทรัพย์ใคร โยมดูดทรัพย์ หรือวัดดูดทรัพย์โยม ท่านบอกถ้าดีจริง พระก็ไม่ต้องให้โยม เอามาแขวนไว้รอบวัด วัดจะได้รวยๆ แต่นี้ไม่ใช่ พระต้องปล่อยออก ไม่งั้นเข้าเนื้อ เก็บไว้ก็ไม่ได้เงินโยม
  
• ท่านเล่าอีกว่า มีคนมาเสนอให้ท่านทำจาตุคาม รุ่นวัดสวนแก้ว เสนอให้ท่านถึง 50 ล้านบาท เพื่อการนี้ แต่ท่านไม่รับ ท่านบอกว่าเหมือนอย่างที่ สมภาร(เจ้าอาวาส) วัดหนึ่ง ไม่ยอมให้มีการจัดงานวัดเพื่อหาเงินเข้าวัด ตั้งเวทีมหรสพ ให้ผู้หญิงมาเต้นกันข้างโบสถ์ ท่านไม่ยอม คณะก็บอกเดี๋ยววัดไ่ม่มีเงิน สมภารท่านนั้นก็บอกว่า ท่านยอมปล่อยให้วัดร้าง ยังดีกว่าให้คนข้างวัดเลว อย่างที่วัดสวนโมกข์ เมืองไชยา ของท่านพระพุทธทาส ก็เหมือนกัน ไม่ยอมทำ ไม่ยอมรับ พระต้องแข็ง คนไชยาก็ไม่ยอมด้วย
  
• และสื่อนี่แหละ ที่เป็นตัวการสำคัญ ทำให้จตุคามดัง เดี๋ยวนี้หนังสือที่ไม่เคยมีพระเครื่องเลย ก็มีจตุคามทั้งหน้า แพร่ไปทุกสื่อ เหลือหนังสือเล่มเดียวที่ท่านเขียนบทความให้อยู่ ที่ยังไม่ลง เพราะท่านไม่ยอม
• ท่านบอกว่า เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจแย่ บ้านเมืองแย่ ใครบอกว่า เรื่องปากท้อง ไม่สำคัญ สำคัญมาก คนและสัตว์เกิดมาก็ต้องกินอาหาร ถ้าไม่มีอาหาร มันก็ทำให้ คุณธรรมแกว่ง เพราะคนต้องเลือกว่าจะรักษาคุณธรรม หรือปากท้องดี คนที่ไม่ได้รับการสั่งสอนมาดี ไม่ได้มั่นคงในคุณธรรม ก็จะหวั่นไหวได้
  
• ท่านกล่าวถึงภาคใต้ว่า อันตรายมาก ตอนที่ท่านลงไปเยี่ยม เขาพาท่านเปลี่ยนไปทางโน้นทางนี้ เพื่อเลี่ยงระเบิด หรือการโจมตี ท่านก็เทศน์กับชาวใต้ว่า เป็นบ้านเรา เราก็ต้องอยู่ จะย้ายไปไหน แต่ถ้าต้องสู้ก็สู้ไปคว้านิิพพานไปด้วย คือ ทำใจให้สงบนิ่ง ไม่ใช่สู้แบบกลัวๆ หรือแบบแค้นเคือง
  
• การที่จะอยากให้อะไรกลับไปเป็นอย่างอดีตมัน เป็นไปไม่ได้ ชีวิตเราไม่ได้อยู่ในอดีต ไม่ได้อยู่ในอนาคต แต่อยู่ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ดูอย่างเวียดนาม ตอนนี้ทำการค้ากับอเมริกา มีคนถามว่าไม่แค้นเคืองเขาหรือ ตอนรบกันในสงครามเวียดนาม เขาก็บอกอดีตผ่านมาแล้วไม่เอามาคิด ทำตอนนี้ให้ดีเพื่ออนาคตให้ดีดีกว่า เหมือนอย่างคนอยุธยาที่ทำการค้าขายกับพม่า ที่แม่สาย ถ้ามันแต่เอามาคิดว่า เขาเคยเผาเมืองเรา การค้าขายก็ไม่มี ก็ไม่เจริญกันทั้งสองฝ่่าย
• ตอนนี้เข้าพรรษา ขอให้อธิฐานใจเข้าพรรษา งดเหล้า ใน 3เดือน เข้าพรรษานี้ ขอให้งดเหล่า การที่เราตั้งใจจะทำความดี งดเหล้า งดการพนันนั้น เป็นความดีมากกว่าเอาเงินไปสร้างสถูปเจดี สิ่งก่อสร้างอีก เพราะเป็นการตั้งใจอธิฐานในความดี ท่านก็ขอให้พวกเราทุกคนตั้งใจอธิฐาน ว่าเราจะทำความดีอะไร ในช่วง 3 เดือนเข้าพรรษานี้ และทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจกันทุกคน