16 March 2008

งานแต่งงาน อะไรนะ?! Wedding what?!

งานแต่งงาน มันคืออะไร? มันคืองานของใคร? แล้วมันคือเพื่ออะไร? ฉันสงสัยจริงๆนะ

ฉันเคยไปงานแต่งงานมาหลายแบบ มีทั้งที่มีพิธีกรพูดภาษาจีนอยู่บนเวที แล้วผู้มาร่วมงานก็..ในชั่วขณะหนึ่ง..เกือบนึกว่ามางานวันแม่ (พอดีแต่งเดือนสิงหาด้วย) เพราะพิธีกรชายอายุรุ่นคุณแม่พูดถึงว่า แม่ออกลูกมาลำบากเพียงไร ต้องตั้งท้อง ฯลฯ เคล้มๆไปจนถูกบอกให้ไชโย แบบนี้ก็มี มีจนไปถึงงานแต่งงาน ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ร้องเพลงเล่นดนตรี ให้แขกที่มาฟัง และก็เล่าเรื่องราวของพวกเขาให้ผู้มาร่วมงานฟังแบบหนุกๆ แล้วงานแบบที่มีคนใหญ่คนโตเต็มงานไปหมด เดินไปเดินมา มีแต่คนหน้าคุ้นๆ ชื่อชินๆ แต่ไม่เคยรู้จักเลย... ก็มี

แล้ว งานแต่งงาน มันควรจะเป็นงานของใคร ของคนสองคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว? หรือของพ่อกับแม่ของคนจะแต่ง? หรือของสังคม? ชักสับสนไปกันใหญ่ มันจะอะไรกันนักกันหนานี่?! เราบ้ากันไปแล้วหรือเปล่า?!

ต่างวัฒนธรรม ต่างเชื้อชาติ ก็มีแบบแผน ขั้นตอน พิธี ที่แตกต่างกันไปอีก ของไทยเราสมัยนี้ ถือว่าเป็นสมัยช่วง 5 - 10 ปี ก่อนปี พ.ศ. 2551 นี้ก็แล้วกัน เท่าที่จำความได้ งานเลี้ยงงานแต่งงานจะมี

๑. รูป Slide show ตั้งแต่แรกเกิด อ้วนจ้ำม่ำ จะมีเด๋อโผล่มาเป็นครั้งคราว จนมาถึงรูปสวยๆในสมัยปัจจุบัน

๒. คนใหญ่โต มาคล้องพวงมาลัยให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว และกล่าวอะไรซ้ำๆกันทุกงาน

๓. ตาน~ ตาน~ ตาน~ ตาน~ ต่าน~ ต่าน~ ตาน~ ต๊าน~ ไช!ไย! ไช!ไย! ไช!โย!

๔. เจ้าบ่า้ว เจ้าสาว พูด ขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ที่ทำให้เรามีวันนี้...

๕. เดินไปแล้วใช้ดาบตัดเค้ก แต่คนจะไม่มองดาบหรือเค้ก คนจะมองมือว่า มือใครจับบนมือใครกันแน่

๖. เงินช่วย และ ของชำร่วย: เงินช่วยคือเงินที่ใส่ซองไปหยอดหน้่างาน โดยเขาจะมีกระปุกใหญ่ๆ เตรียมไว้ให้แล้ว และ ของชำร่วย คือสิ่งที่ได้กลับมาจากการหยอดกระปุก มักจะเป็นของที่มีชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวแปะอยู่ และมักใช้การอย่างอื่นไม่ได้ด้วย

นี่มันอะไรกัน? จริงๆแล้วจุดประสงค์ของการจัดงานแต่งงานคืออะไร? แล้วมันงานใครกันแน่ เป็นงานของพ่อแม่จริงหรือ แล้วตอนพ่อแม่แต่งงาน มันเป็นงานของปู่ย่าหรือ ทำไมมันงงจัง แล้วยิ่งคนไทยคนจีนแต่งงานกัน ลูกสาวแต่งออก สินสอดฝ่ายชายให้ แล้วฝ่ายหญิงก็ถมให้อีก แล้วก็เอาเงินให้ลูกๆไป ทำไมมันสับสนอย่างนี้ แล้วลูกสาวต้องแต่งออกหรือ พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงมาแบบทะนุถนอมเหมือนกันหรือ งุนงงโงกเงก

ทำไม ไม่เอาง่ายๆ แบบฝรั่งไม่ได้หรือ ที่คนสองคน แต่งงานกัน เพื่อที่จะแต่งงานกัน บอกกันและกัน และคนรู้จักว่า รักกัน และต่อไปนี้จะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัว แล้วทุกคนก็กินข้าวร่วมกัน หรือเต้นรำกัน หรืออะไรก็ได้ ให้มันสุขใจ...

วัฒนธรรมที่ไม่ดี เราก็เปลี่ยนได้ไม่ใช่หรือ การได้รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่เป็นสิ่งดี แต่การทำอะไรแบบ Auto pilot หรือ by default มันคืออะไร เสียเวลาชีวิต และเสียทรัพยากรโลก ช่างกระไร ไม่เห็นความสำคัญของก้าวหนึ่งของชีวิต ที่จะต้องมีอีกคนหนึ่งมาเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเรา มีญาติๆเพิ่ม มันใหญ่นะนี่ ไม่ใช่เล่นๆ เป็นก้าวหนึ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเรา สรุปแล้วเป็นงานใคร?

ความคิดนี้ของฉัน กับความสับสนวุ่นวายจนเกินจำเป็นที่ฉันไม่เข้าใจ ทำให้เราไม่มีงานแต่งงาน อย่างมีความสุขกับชีวิตคู่ แม้จะต้องทนกับคำถามที่ว่า "เมื่อไรจะแต่ง พ่อจะจัดให้ใหญ่ๆเลย" ทั้งๆที่แต่งไปแล้ว ตามกฎหมาย และตามชีวิตจริง ที่เราแนะนำกันว่า นี่ภรรยาผม นี่สามีดิฉัน แล้วยิ้มแปร้น

ขอได้ไหม ขอแค่ท่านผู้อ่านคิดถึงเรื่องนี้ ก่อนที่จะจัดงานแต่งงาน ว่า งานแต่งงานคืออะไร...

ได้โปรดเถิด ช่วยคิดที
>_<...

5 comments:

Anonymous said...

เป็นข้อเขียนที่เขียนได้ตรงใจผมเป็นที่สุดครับ

ตรงใจทุกเรื่อง ทุกข้อที่ว่ามาเลยครับ

วันนี้เพื่อนที่ทำงานก็มีงานแต่งงาน ไม่ได้ไปหรอกครับ ฝากซองไป เพราะเห็นว่าไม่ใช่สาระอะไรนะ

วันนี้ว่ากำลังจะเขียนถึงเรื่องนี้พอดีเลยครับ

ดีที่เข้ามาอ่านที่นี่ก่อน ดูเหมือนไม่ต้องเขียนเองแล้ว แปะ link มาก็น่าจะพอ ฮาอาฮา

blueswing said...

เบื่องานแต่งงาน "ตามสูตร" ค่ะ เสียเวลา แล้วก็มีคนไม่รู้จักเพียบ แต่พอจะจัดที่มัน ปรกติ หรือ make sense "ผู้ใหญ่" ก็ไม่ยอม ก็เลยสงสัย กับสังคมเราจริงๆ
ถ้าพ่อบอกเป็นงานของพ่อ แล้วเราต้องมีลูกเพื่อมีงานของเราหรือ แล้วลูกเราต้องรออีกกี่ปี ฮ่าฮ่า ชักไปกันใหญ่
ดีใจที่มีคนคิดเหมือนกันจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับ comment จริงๆ ค่ะ
ช่วงนี้ "วันดี" เลยมีงานแต่งงานเยอะ อิอิ

Anonymous said...

เขียนเสร็จแล้วนะครับ

งานแต่งงาน เพื่ออะไร เพื่อใคร
http://dcopywriter.wordpress.com/2008/03/16/

เชิญไปเสวนาได้ครับ

Anonymous said...

"ทำไม ไม่เอาง่ายๆ แบบฝรั่งไม่ได้หรือ"
ได้ครับถ้าต้องการ

แต่เท่าที่อ่านดูมันไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลยนี่ครับ
ตรงไหนของงานแต่งงานที่มันไม่ดี

burlight said...

วัฒนธรรมไทยของคนรอบๆตัวผมในตอนนี้ งานแต่งเสมือนเป็นงานเลี้ยงของพ่อแม่ จัดตามใจคนแต่งแบบง่ายๆได้ก็โชคดีไป แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีได้มีงานแบบที่ตัวเองต้องการ

งานแต่งที่ต้องใช้เงินเป็นล้าน ผมว่ามันเกินไปสำหรับประเทศที่ไม่ได้ร่ำรวยอย่างประเทศไทยนะครับ (งานรับปริญญาบัตรก็เช่นกัน)

Add to Google Reader or Homepage