ฝนจะตกเราห้ามมันไม่ได้ ก็ "ช่างมัน" ของมันจะพัง หูแก้วใบโปรดจะหัก โทรศัพท์สุดรักตกแยกเสี่ยง เราช่วยเหลือมันไม่ได้ซะแล้วก็ต้อง "ช่างมัน"... อะไรที่มันเกิดแล้ว เราแก้ไขไม่ได้ช่วยไม่ได้ ก็ต้องช่างมัน
ไม่แน่ ตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง อาจพบว่าเราเป็นโรคร้าย ก็ต้อง ช่างมัน แล้วทำใจให้ดี ให้สุขใจ ยิ้มได้ดีกว่า ไม่เป็นโรคร้าย ก็ใช่ว่า เดินๆอยู่แล้วรถจะไม่มาชน อะไรๆก็เกิดขึ้นได้
เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ก็ช่างมัน ความจริงมันก็เป็นธรรมดาของมันอยู่แล้วนี่ มันอาจจะขัดใจเรา มันอาจจะบังคับใจเรา แต่ดูดีๆ ก็จะเห็นว่า มันก็เป็นเรื่องของมันธรรมดาอยู่อย่างนั้นเอง เรายังไม่เกิด มันก็เป็นของมันอย่างนั้น แม้เราม่องเท่งไปมันก็ยังเป็นของมันอย่างนั้น มันไม่สนใจเลยว่าเราจะคิดยังไง พูดบ่นยังไง ขี้มูกโป่งยังไง ตีโพยตีพายยังไง คือ ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆๆ แล้วสุดท้ายก็หายวับเป็นฝุ่นผง หาไม่เจออีก
ท่านว่า พระพุทธท่านว่า ให้ถือ คาถา "ช่างมัน" ไว้ อะไรจะเกิด เราห้ามไม่ได้ ก็ ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน คนจะมานินทา ชื่นชม ก็ช่างมัน ช่างมัน มันไม่เกี่ยวกับเรา เรารู้ เราดีไม่ดี และมันก็ไม่ได้เป็นตามปากเขานี่ อะไรเกิดขึ้น มองหา ธรรมดา แล้วก็ใช้ คาถา ช่างมัน ไว้ แล้วใจเราก็เป็นสุข ศาสนาพุทธ ท่านสอนเกี่ยวกับความเป็นจริง ความธรรมดา มองไปซื่อๆ แล้วก็จะเห็นว่าผมใครๆ ก็หงอกนี่ อายุน้อยๆ ตายก็มีถม แก่เดินโคร่งแคร่งไม่ตายสักทีก็ยังมีได้
ใช้คาถาช่างมันบ่อยเข้าก็เป็นสุขมากเข้า คาถาช่างมันชั้นสูง ได้วิชาความสุขแบบใจยิ้มตลอดวัน ^____^
ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน ช่างมันเถอะ~
No comments:
Post a Comment