06 July 2008

มงคล 38 ประการ : 5. ทำบุญไว้ในกาลก่อน

เวลาที่ทำความดี ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี วันนี้ขอมอบมงคลที่ 5 เป็นของขวัญค่ะ

คัดย่อจากหนังสือ มงคล ๓๘ และอุทุมพริกสูตร โดย พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

มงคลที่ ห้า พระบาลีท่านว่า

ปุพเพจะกะตะปุญญะตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การทำบุญไว้ในกาลก่อน เป็นอุดมมงคล

บุญ แปลว่า เหตุของความสุข ปัจจัยของความสุข หรือ ตัวความสุขก็ว่าได้ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชวัดบวรฯ องค์ต่อจากกรมหลวงชินวร ท่านแปลคำว่า บุญ ว่า จิตสะอาด

เราเคยทำจิตสะอาดมาแล้วในการก่อน จัดว่าเป็นอุดมมงคล นี่สำคัญมากๆ การทำจิตสะอาดทำยังไง ความจริงทรงพรหมวิหาร 4 นี่ ก็ยอดของความดียอดของความสะอาดของจิตอยู่แล้ว

แล้วการทำบุญไว้ในกาลก่อน เอาเมื่อวานนี้ก็แล้วกัน เราให้ทานกับสุนัขไว้ เราให้ทานกับเพื่อนบ้านที่ขาดฟืนขาดไฟขาดอาหาร เคยยกมือไหว้บุคคลที่มีอายุแก่กว่า มีคุณวุฒิสูงกว่า นี่เป็น ปุพเพจะกะตะปุญญะตา แล้วพอมาวันนี้ เราไปเจอะคนพวกนั้น เขาก็แสดงความเป็นมิตร แสดงความเคารพ ความขอบใจ เราก็มีความสุขใจ อย่างนี้จัดว่าเป็น อุดมมงคล

และคนเราที่เกิดมาเป็นคนได้ ก็ต้องอาศัยการสร้างความดีไว้ในอดีตกาล คือ
  • ที่เราเป็นมนุษย์ได้ เพราะเคยมีศีล 5 บริสุทธิ์ เคยมีกรรมบถ 10 บริสุทธิ์

  • ที่เรามีทรัพย์สิน มีข้าวกิน ก็เพราะอาศัยการให้ทาน

  • ที่มีเพื่อนฝูง มีบริวาร ก็เพราะการชักชวนกันสร้างความดี

  • ที่เรามีปัญญาคิดอะไรต่ออะไรออก ก็เพราะเคยใช้ปัญญายอมรับนับถือกฎของความดี
พระพุทธกัสสป พระพุทธเจ้าองค์ก่อน พระพุทธเจ้าของเรา ท่านเคยเทศน์ไว้ว่า
  • คนใดบริจาคทานด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนบุคคลอื่น คนนั้นเกิดไปในชาติต่อไป มีทรัพย์สินสมบัติมากแต่ไม่มีพวกพ้อง

  • บุคคลใดชักชวนบุคคลอื่น แนะนำบุคคลอื่นให้ให้ทาน แต่ตนเองไม่ทำ เกิดในชาติต่อไป มีพวกพ้อง แต่ตนเองเป็นคนจน

  • บุคคลใดให้ทานด้วยตนเองด้วย แล้วก็ชักชวนบุคคลอื่นให้ให้ทานด้วย บุคคลนั้นเกิดไปในชาติต่อไป มีทรัพย์สินมากด้วย แล้วก็มีพวกพ้องพี่น้องบริวารมาก

  • บุคคลใดไม่ให้ทานด้วยตนเอง ไม่ชักชวนบุคคลอื่นด้วยในการให้ทาน เกิดในชาติต่อไป เป็นคนจนด้วย แล้วก็หาพวกพ้องไม่ได้ด้วย
เมื่อพวกเรามาเป็นมนุษย์บริบูรณ์สมบูรณ์ได้ เข้ามาเจอะสุข ก็เพราะอาศัยความดีในชาติก่อน แล้วมาชาตินี้ เราจะทำลายความดี หรือ สร้างความดีกันต่อ เพราะว่าถ้าเรายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ท่านทั้งหลายยังต้องเกิด แล้วถ้าเราจะเกิดไปข้างหน้า...

เราจะเป็นคนจน หรือ ว่าอยากเป็นคนรวย?
เราจะเป็นคนหูแหว่งจมูกวิ่น หรือ เราจะต้องการเป็นคนมีอวัยวะสมบูรณ์?
เราอยากจะเป็นคนมีสติปัญญา หรือ อยากเป็นคนโง่?
เลือกกันเอา 3 อย่าง เลือกตามใจชอบ

แต่ก็คงไม่มีใครอยากเป็นคนจน แล้วถ้าเราอยากจะรวย เราก็ตั้งหน้าตั้งตาให้ทาน แล้วในการให้ทานนี่ ให้แค่พอเหมาะพอดีนะ อย่าให้เพื่อเป็นการเบียดเบียนตัวเอง คืออย่าให้เกินวิสัย ไม่ใช่มีบาทแล้วให้หมดบาท ต้องดูความจำเป็นอะไรมันมีบ้าง แล้วสิ่งที่เราให้ก็คือนอกเหนือจากความจำเป็น มันเป็นเงินปลอด

แล้วการให้ทานน่ะ เป็นการสร้างมิตร ไม่ใช่เป็นการสร้างศัตรู เราให้ทานจัดเป็นสังคหวัตถุ เป็นการเชื่อมความรักซึ่งกันและกัน ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันให้มีความสุข อย่างนี้ถ้าต่างคนต่างมีจิตคิดแบบนี้ ก็เป็นการช่วยกันสร้างชาตินั่นเอง เพราะคนทั้งชาติมีจิตใจเสมอกัน ชาติของเราก็เต็มไปด้วยความสุข เมื่อชาติทั้งชาติมีความสุข เราจะไปหาความทุกข์ตรงไหน ไปไหนก็มีแต่มิตร มีแต่เพื่อน มีแต่คนยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะผลของทานบารมีที่เราให้

แล้วเรื่องความสวย ถ้าเราอยากเป็นคนสวยทำยังไง เราก็มีจิตเมตตา ระงับการละเมิดศีลข้อที่ 1 เข้าไว้ มีจิตใจประกอบไปด้วยเมตตา คนประเภทนี้เกิดไปทุกชาติๆ สวยบอกไม่ถูก สวยจริงๆ

คราวนี้ ถ้าเรามีทรัพย์สินไม่อยากให้ขโมยขโจรลัก ไม่อยากให้มีอันตราย เราก็ไม่ลักไม่ขโมยยื้อแย่งทรัพย์สมบัติของใคร เกิดมาชาติต่อไปไม่ต้องระวังของหาย ไม่มีอันตราย ใครเอาไฟเข้ามาจุดมันก็ไม่ติด

ตานี้ ถ้าเราต้องการให้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือว่าสามีภรรยาของเรา อยู่ในโอวาท ไม่นอกใจ จะพูดอะำไร จะสอนอะไร เชื่อฟังอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้เราก็ระวังศีลข้อที่ 3 ไม่ทำกาเมสุมิจฉาจาร

ถ้าเราต้องการให้เราปากหวาน ปากหอม พูดกับใครใครก็ชอบ เราก็ไม่โกหกมดเท็จใคร

ถ้าเราตั้งใจให้เป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีความดี มีปัญญา เราก็ไม่ดื่มสุราและเมรัย และตั้งใจเคารพในความดี

นี่เราว่าถึงชาติหน้านะ แต่ความจริงถ้าเราทำความดีอย่างนี้ มันเริ่มให้ผลตั้งแต่ชาตินี้ เพราะว่า
  • การให้ทานการสงเคราะห์นี่ ไปที่ไหนก็มีคนยิ้มแล้ว มีคนชอบใจ มีคนรักแล้ว
  • ตานี้ถ้าเราเป็นคนมีความเมตตาปราณีไม่ฆ่าใคร ไม่ตีใคร ไม่กลั่นแกล้งใคร ถึงแม้ว่ารูปร่างไม่สวยเราก็เป็นคนสวย สวยเพราะอะไร สวยเพราะว่ามีคนรักเรามาก ไอ้คนสวยน่ะ ถ้ามีใครเขาเกลียด ความสวยก็ไม่มีความหมาย
  • ถ้าเราไม่ลักไม่ขโมยของใครนี่ แหม ท่านทั้งหลายไม่ต้องห่วง ไปที่ไหนก็มีแต่คนรักอีก เสน่ห์มันดีเหลือเกิน
  • ถ้าเราไม่ละเมิดความรัก เป็นที่ไว้วางใจของคนอื่นในเรื่องของกาเม จะไปนอนค้างอ้างแรมบ้านใครก็ได้ จะเดินไปกับลูกชายลูกสาวใครก็ไม่มีใครว่า เพราะว่าความดีข้อนี้เป็นเหตุให้เกิดเมตตาจากบุคคลอื่น
  • ถ้าเราไม่เป็นคนโกหกมดเท็จ พูดแต่ความเป็นจริง ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง เขาชอบฟังเราพูดอยู่ตลอดเวลา แสดงว่าเราเป็นคนปากหอม มีเสียงเป็นเสน่ห์
  • ถ้าเราไม่กินเหล้าเมาสุรา เป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เราก็เป็นคนดีของสังคมแห่งความดี
นี่ขึ้นชื่อว่าความดีที่เราทำไว้เพื่อชาติหน้า ก็ให้ผลความดีตั้งแต่ชาตินี้ ถ้าทุกคนในประเทศของเราสร้างความดีอย่างนี้ทั้งหมด ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า คำสั่งสอนทั้งหมดขององค์สมเด็จพระบรมสุคต บั่นทอนประเทศชาติให้ทรุดโทรม หรือทำประเทศชาติให้เจริญ

ลองนึกถึงพระเจ้าแผ่นดินเป็นตัวอย่าง ท่านปล่อยฝนช่วยชาวบ้าน เสกน้ำเป็นน้ำมัน ทดลองอะไรต่ออะไร พระเจ้าแผ่นดินเอาฝนไปให้ พืชพันธุ์ธัญญาหารทั้งหลายก็งอกงาม เป็นการให้ทานอย่างหนึ่ง อย่างนี้ทำให้ประเทศชาติทรุดโทรม หรือทำประเทศชาติให้เจริญ

ตานี้เราเป็นพสกนิกรของพระองค์ ในเมื่อพระองค์ทำใหญ่ได้ เราก็ทำมั่ง แต่เราทำเล็ก ช่วยกันทำคนละไม้คนละมือ คนละจุดสองจุด ทุกคนต่างช่วยกันทำคนละเล็กละน้อย มันก็ใหญ่ขึ้นมาเอง

เป็นอันว่า ความสุขที่จะพึงได้ในชาติหน้า ความจริงเราได้ตั้งแต่ชาตินี้ องค์สมเด็จพระมหามุนี เวลาเทศน์ท่านก็เทศน์ว่า การทำความดี ไ่ม่ใช่ว่าเราต้องการผลในชาติหน้า ให้ต้องการผลจริงๆในชาตินี้ เมื่อชาตินี้มันมีความดีมีความสุขแล้ว ความสุขนี้ก็เป็นปัจจัยให้ได้รับความสุขในชาติหน้าต่อไป ฉะนั้นองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา จึงตรัสว่า

ปุพฺเพจกตปุญฺญตา การสร้างความดี คือว่าทำบุญไว้ในชาติก่อน จัดว่าเป็นอุดมมงคล

No comments:

Add to Google Reader or Homepage