นึกยาวไปถึงตากะยายของฉัน ตอนอยู่นี่ คุยกันที่ไรทะเลาะกันทุกที ไม่เห็นค่อยคุยกัน แต่พอยายตายไปก่อน ตาก็บอก บางทีหลับไปตื่นขึ้นมาก็นึก เอ ยายหายไปไหน นึกได้ว่าไม่อยู่ซะแล้ว ก็ใจหาย ตาบอก ตอนก่อนยายจะตาย ตาก็ไปเฝ้าที่โรงพยาบาล ไปนอนบนเตียงด้วยเลย ยายป่วยมาก ลูกทุกคนก็ไปเฝ้า ตาของฉันอายุมากกว่ายายสิบปีได้ แต่ก็อายุยืนกว่ามาก ตอนที่ยายเสียนั้น ในห้องก็เงียบไปสักพัก ตาก็พยายามจะทำลายความเงียบ ด้วยการบอกว่า "เออ...คนตายก็ตายไป...คนอยู่ก็ต้องกินไป" แล้วตาก็เอาขนมขึ้นมากิน
ชีวิตคนก็อย่างนี้แหละนะ ฉันเองก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตคู่หลายอย่าง ที่สำคัญคือ มีแล้วเป็นทุกข์กว่าเดิม ก็ไม่มีจะดีกว่านะ เราอยู่คนเดียวก็ออกจะสบายดี แต่ถ้ามีแล้วก็ต้องรักษาน้ำใจกันดีๆ คนเราที่เห็นมีเหตุมีผล คิดอะไรเป็นหลักเป็นการนี่ ก็มีสิ่งที่เหตุผลไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกันนะ มันจะมีงองแง พาลพะโลโยเยกันบ้าง ต้องเข้าจาย.. จากที่เรียนรู้เองและที่สังเกตุจากคนอื่นด้วย ก็เชื่อว่า สิ่งดีๆที่ควรมีในชีวิตคู่ มีดังนี้
- ความเข้าใจ
บางทีไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ แต่ต้องเข้าใจกัน ต้องเข้าใจถึงความแตกต่าง และ การตอบสนอง (reaction) ของอีกฝ่ายต่อสิ่งต่างๆ บางทีมันไม่มีเหตุผลหรอก แต่เขาไม่ชอบนี่ เราก็อย่าทำ ถ้ารักจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขนี่ ก็ต้องสังเกตุสังกากันด้วยนะ - ความเอาใจใส่ (และความเข้าใจ)
คนปรกติที่รักกันนี่ ก็เอาใจใส่กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก แต่ที่ต้องใช้การดูแลแบบ ICU ดูแลหนักหน่วงเป็นพิเศษ พร้อมความเข้าใจ ก็ตอนที่ อีกฝ่ายอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ เช่น ป่วย เครียสเรื่องงาน ผิดหวังไม่ได้เลื่อนขั้น สารพัดจะมี ตอนนี้แหละที่เราต้องให้ความเอาใจใส่กันแบบพิเศษเพิ่มเส้น เพิ่มลูกชิ้น เพิ่มน้ำด้วย อย่าไปเอาเหตุผลอะไรมาก ต้องเข้าใจกันในยามยากนะจ๊ะ - ให้อภัย ให้อภัย ให้อภัย
รักจะรัก ก็ต้องรู้จักให้อภัย อย่างที่บอกว่า บางทีคนเราป่วย หรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แล้วในช่วงนั้น ถ้าเขาจะหงุดหงิดใส่เราบ้าง เซ้าซี้ ขี้ตื้อบ้าง ก็ต้องให้อภัย ใจเย็น อาศัยเข้าใจว่า "เขาเครียสอยู่หนะ เดี๋ยวก็หาย" มันก็จะดีเอง รักกันจะโกรธกันทำไม แล้วใครจะรักเราหละ - ขอบคุณ และขอโทษ
จะเก็กกันไปถึงไหน ผิดก็ยอมรับมาซะดีๆ พูดขอโทษแล้วมองตาด้วย ไม่ใช่เอามือไปจิ้มๆพื้นแล้วบอกขอโทษ ขอโทษที่ทำไม่ดีนะ ฉันไม่น่าทำอย่างนั้น ขอโทษนะ แล้วก็ต้องรู้จักขอบคุณกันด้วย จะได้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นให้ขอบคุณกันบ่อยๆไง - อย่าจี้มาก
เขาขอโทษแล้ว อธิบายให้ฟังแล้ว จะจี้ย้ำ ถามเค้นไปถึงไหนกันนี่ ยิ่งถ้าขอโทษแล้ว ก็แล้วกันเถอะ ยิ่งถามจี้มันก็ไม่จบ ความสงบสุขก็ไม่เกิด เหนื่อยเปล่า เอาเวลาไปทำอย่างอีนซะจะดีกว่า - อิสรภาพ
เราต่างคนก็ต้องปล่อยให้ อีกคนเป็นตัวของตัวเองนะ ไปจำกัดจำเกี่ยมาก มันก็จะเบื่อกันไปซะ ผมต้องไว้อย่างนี้ ต้องทำอย่างนี้ ต้อง ต้อง ต้อง ต้อง โอ๊ย! จะบ้าเหรอ ไปซื้อตุ๊กตามาเล่นแล้วกัน (มีให้เลือกทั้ง บาร์บี้ ทั้ง เคน) คนเราก็ต้องมีความคิดเป็นของตัวเองบ้าง คนมีชีวิตจิตใจ มีสมองนี่ จะให้เขาทำอย่างนั้น อย่างนี้ ที่ไม่ใช่ตัวเขา ก็แสดงว่า เราไม่ได้รักเขานี่ รักใครก็ไม่รู้ที่ยังหาไม่เจอ เป็นแบบนั้นให้หน่อยแล้วกัน เจอแล้วค่อยไป มันไม่ใช่นะนี่ เราก็ไม่ชอบโดยบังคับ ก็ไม่มีใครชอบโดยบังคับหรอกค่ะ - ให้เกียรติกัน
รู้จักแนะนำให้สังคมรู้จัก นี่ภรรยาผม สามีดิฉัน นี่แฟนฉัน คู่หมั้นฉันจ๊ะ ไม่ใช่ นี่"เล็ก" นี่"เหมียว" ใครหว่า? เพื่อนข้างบ้านรึเปล่า ต้องใส่ใจเรื่องนี้ การให้เกียรติ ก็คือให้ความสำคัญ คนที่เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตนี่ ไม่สำคัญรึ - ฟัง
คนเราต้องฟังกันนะ บางที่ตาแก่บ่นๆๆนี่ ไม่ได้ต้องการให้ช่วยคิดว่าจะทำอย่างไรหรอก แค่ "ขอบ่น" รับฟังหน่อย - ทัศนคติต่อสิ่งรอบตัวที่เหมือนกัน
อันนี้ยิ่งใหญ่มาก และสำคัญมากด้วย ทัศนคติและจุดหมายของชีวิตที่ต่างกัน มันก็อาจทำให้เราแยกทางกันไปในที่สุดก็ได้นะ คิดดีๆ รักผู้หญิงคนนี้ แต่เขาคิดแปลกๆ คงเปลี่ยนกันได้มั้ง มันเปลี่ยนกันยากนะคุณ แล้วสุดท้ายพอมีอะไร ก็ปรึกษากันไม่ได้ เพราะความคิดกันคนละแนว ต้องการจากชีวิตกันคนละอย่าง อีกคนหนึ่งต้องการช่วยคนอื่น อีกคนหนึ่งต้องการสบายแต่ตัว อย่างนี้ก็ลำบากที่จะอยู่ด้วยกันนะจ๊ะ
ขอให้มีความรักที่ดี ที่อบอุ่น และเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อกันทุกคนนะคะ
No comments:
Post a Comment