รถยนต์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องจักรต่างๆ ถูกพัฒนาขึ้นให้
เป็นมิตรต่อมนุษย์ หรือ เป็นมิตรต่อผู้ใช้ มากขึ้นทุกที ทุกที ทำอย่างไรให้มัน รู้จักเจ้าของ และตอบสนองได้ดีที่สุด จน
คุณ ผู้เป็นเจ้าของไม่ต้องปรับตัวเข้าหามัน
รถยนต์ในอนาคตจะรู้ นิสัยการขับขี่ของคุณ และปกป้องคุณจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยวิธีการที่ซับซ้อนทางกลไกและทางไฟฟ้า มันทายอารมณ์ของคุณ จากน้ำเสียงที่คุณพูด เพลงที่คุณฟัง แล้วปรับแสงสีในรถให้เป็นโทนที่คุณอาจจะชอบ เครื่องจักรที่ดุดันและเย็นชา (mean machine) อย่าง BMW ก็กำลังพัฒนาระบบนี้เช่นกัน

แต่ความสะดวกสบาย ไม่ได้มากับประสิทธิภาพเสมอไป เมื่อใดที่คุณต้องการจะเค้นประสิทธิภาพสูงสุดจากเครื่องจักรนั้นออกมา
คุณ ก็ต้องเป็นผู้ควบคุมมันด้วยตัวคุณเอง รถสปอร์ตราคา 23 ล้านบาท มาพร้อมกับเกียร์ manual (อย่างเดียว) เพราะมนุษย์ คือสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด และความพิเศษของเรา คือ
ความสามารถในการปรับตัวปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม เครื่องจักร และคน

แน่นอนว่า คอมพิวเตอร์ รถยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ จะปรับตัวให้เข้ากับเรามากที่สุดในอนาคต การพัฒนาจะไม่หยุดยั้ง แต่ ถ้าทุกอย่างปรับเข้าหาเราหมด เราจะละเลยการปรับตัวของเราไปหรือเปล่า เข้ามานั่งรถ เบาะ กระจก อุณหภูมิของแอร์ เสียงเพลง แสงไฟ ก็ปรับให้เป็นแบบที่คุณพอใจทันที ไม่มีเครื่องจักรใดขัดใจคุณ ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะเลือกที่จะอยู่กับเครื่องจักร มากกว่าสิ่งมีชีวิตหรือเปล่าน้า... ลูกจะขอเลี้ยงหมาหุ่นยนต์ แทนคอฟฟี่หมาเจ้าเล่ห์จอมไก๋ของเราหรือเปล่าน้า... แล้วโลกจะเป็นยังไง?
อย่าลืมว่า
เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด และถ้าเราอยากเค้น
ประสิทธิภาพสูงสุดจากตัวเรา เราก็ต้อง
ควบคุมตัวเราเองด้วยเหมือนกัน ควบคุมด้วย
ใจ ใช้
ใจควบคุมตัว และก็ต้องไม่ลืมโดยเด็ดขาดว่า ที่คุณปู่ทวดของเรารอดชีวิตจากการถูกกินมาได้ ก็ด้วย
ความสามารถในการปรับตัว...ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ...ให้เข้ากับปู่ป้าคนอื่น
หากเราเลิกปรับตัว หากไม่มีผู้ใดปรับตัวเข้าหากัน หากเราลืม
คุณสมบัติพิเศษของเรา เราก็อาจจะไม่ใช่เรา ในฐานะมนุษยชาติอีกต่อไป...
เรา..อาจจะเป็นหลานคนสุดท้าย ของคุณปู่...
No comments:
Post a Comment