ฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปทำงานในเมือง ลงจากรถไฟฟ้าก็ต้องสูดหายใจลึกๆ เพราะข้างหน้านั้น คือ "บาทวิถี" ที่ปุปะและขโยกเขยก ไม่รู้ว่าทำไมบ้านเราต้องใช้ปูนที่เป็นก้อนๆ แบบพวกซีเพ็คมาทำทางเท้า ทำไมไม่ทำทางเท้าด้วยปูน หรือทำแบบถนนปรกติ เมื่อใช้ปูนก้อนแบบนั้น พอบางที่ยุบตัว ทางเท้าก็เป็นหลุมเป็นบ่อ ปูนก้อนก็ขโยกเขยก
ทางเท้าที่ฉันต้องเดินไปนั้น ต้องผ่านร้านขายอาหารแผงลอย สองข้างทาง ตั้งแต่ขายน้ำส้ม ขายกาแฟ ขายผลไม้ ขนมปัง กับข้าว หมูปิ้ง หรือแม้แต่เสื้อผ้าก็ยังมี ทั้งแผงลอย ทั้งคนยืนรอซื้อ เดินสวนกันเรียกว่าลำบาก เดินไปทั้งต้องระวังไม่ให้สะดุดหรือตกหลุม และยังต้องหลีกคน หลีกแผงอีก
ฉันเคยต้องเท้าเจ็บไปเป็นเดือน เนื่องจากใส่รองเท้าส้นสูงเดินไปทำงาน หรือพจญภัยบนบาทวิถีด้วยส้นสูง คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น Morton's Neuroma หรือ เส้นประสาทเท้าระหว่างนิ้วกลางและนิ้วนางมันหนาขึ้นและอักเสบ เนื่องจากมีการกดหรือปีบรัดตรงช่วงนิ้วเท้ามากเกินไป เจ็บจนนอนไม่หลับ เหมือนคนเอามีดมากรีดใต้เท้าเลยค่ะ
ตอนนี้หายแล้ว (แต่ยังไม่ขาด) การเดินบนบาทวิถีก็ยังเป็นเรื่องลำบาก มีทั้งปูนก้อนที่โคลงเคลง หลุมที่เกิดจากพื้นที่ยุบตัว ฝาท่อที่ไม่มั่นคง ไม่รู้ว่าถ้ามีคนตกท่อไปจริงๆจะฟ้องก.ท.ม. ได้หรือเปล่า หรือใครจะรับผิดชอบ ระหว่างทางยังมี คุณลุงคุณป้าขอทานอีก คนเดิมๆมาขอกันทุกๆวัน ฉันขอเลือกที่จะอุปการะเด็กกับมูลนิธิศุภนิมิต หรือบริจาคตู้ ดีกว่าที่จะแบ่งรายได้ให้กับคนที่มานั่งเฉยๆรอคนให้ทุกๆวัน เดินต่อไปก็เห็นผู้หญิงผู้เคราะห์ร้าย ที่ปลายส้นสูงติดเข้าไปอยู่ระหว่างก้อนปูน 2ก้อน ที่ไม่ลงรอยกัน
แล้วคุณเคยโดนแมลงสาบตัดหน้า หรือพบศพแมลงสาบนอนหงายเก๊งอยู่ข้างทางหรือไม่ ฉันเคย... มีมากกว่านั้น บนบาทวิถีเดียวกันนี้ ระหว่างทางกลับบ้าน ฉัน..โดนหนูสีน้ำตาล ตัวอ้วนหางยาว วิ่งตัดหน้า ช็อกรับประทาน ยืนแข็ง ให้หนูผ่านไปโดยดี
หากเราทำฟุตบาท หรือบาทวิถีให้เรียบ ได้มาตรฐาน ก็คงจะมีคนเดินมากกว่านี้ คงไม่มีคนสะดุดฟุตบาท ที่ที่ทำให้เดิน หกล้ม ฉันก็คงไม่ต้องทรมานเจ็บเท้าขนาดนั้น และก็คงลดการใช้รถสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปใกล้ๆได้ ขอให้ช่วยกันร้องเรียนไปยังกรุงเทพมหานครด้วยเถอะค่ะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพวกเรา และความน่าอยู่ของกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย
ดูเพิ่ม ฟุตบาทในประเทศไทย
No comments:
Post a Comment