วันนี้ได้ดูรายการ จุดเปลี่ยน ตอนบ่ายโมง เรื่องว่า เราใส่บาตรอะไรกัน พระท่านต้องฉันอะไรที่ เป็นผลต่อสุขภาพบ้าง
อย่างในกรุงเทพฯ อาหารที่คนถวายกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารถุงๆ ซึ่งอาหารคาว ก็จะเป็นอาหารผัดน้ำมันเยอะ หรือเป็นแกงกะทิ แล้วก็จะมีขนมหวาน พวกเบเกอรี่ หรือขนมหวานมากๆ ทำให้พระท่านสุขภาพเสียได้ อาพาธกันไปได้ เพราะท่านเลือกอาหารไม่ได้นี่ค่ะ ฉันอย่างนี้ทุกวันก็แย่เลย..
สำหรับที่เขาไปดูที่ต่างจังหวัด คนส่วนใหญ่ก็จะเตรียมอาหารกันเอง เป็นอาหารที่ทานเองด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็น แกงส้ม ผัดผัก น้ำพริกผักต้ม มีผักมากกว่าที่คนกรุงตักบาตรกันนะคะ แล้วที่เขาบอกว่าแตกต่างกันมากคือ เขาถวายผลไม้กันมากกว่าด้วยค่ะ พระท่านก็จะสุขภาพดีกว่านะคะ
ในกรุงเทพฯ เองก็มีร้านตัวอย่าง และบุคคลตัวอย่าง อย่าง คุณป้าจินดา ที่ตั้งใจทำอาหารเจ อาหารสุขภาพ แล้วนำมาขายทุกวันพระ ให้คนซื้อตักบาตร คุณป้าจินดาตั้งใจทำอาหารทุกชนิด โดยคิดถึงคุณค่า และสารอาหารที่พระสงฆ์จะได้รับด้วยค่ะ ดูแล้วปลื้มใจจริงๆ โมทนาด้วยค่ะ
มีข้าวซ้อมมือ ที่มีคุณค่าทางอาหารมาก ไว้ให้ซื้อใส่บาตรด้วยค่ะ
ตักบาตร ก็คิดถึงสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์กันด้วยนะคะ ท่านออกบวชเพื่อละกิเลส นำธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสอนเรา ท่านมีบุญคุณต่อเรามาก ใส่อาหารมังสาวิรัติ อาหารไม่เบียดเบียนได้ก็ดีเหมือนกันนะคะ ท่านจะได้ไม่ลำบาก เพราะพระสงฆ์เป็นกำลังสำคัญที่จะธำรงพระพุทธศาสนาของเราให้คงอยู่ต่อไปนี่ค่ะ
และวันเสาร์หน้า บ่ายโมงตรง จุดเปลี่ยน ก็มีเรื่องนาสนใจอีกค่ะ เกี่ยวกับของในสังฆทานถังเหลือง ที่ร้านสัฆภัณฑ์ จัดกันไว้ให้เราซื้อโดยสะดวก เคยได้ยินจากพระอาจารย์ตอนสมัยก่อน ว่า ถังพวกนี้บางทีเก็บไว้นานมาก เปิดมากลิ่นแฟ็บลงไปรวมในกลิ่นข้าวสารบ้าง ของหมดอายุแล้วบ้าง ซื้อของที่เราใช้ๆกัน ถวายท่านดีกว่านะคะ ต้องติดตามกันดูเสาร์หน้า บ่ายโมงตรงค่ะ น่าสนใจ
No comments:
Post a Comment